นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายอุดม รัฐอมฤต อดีตคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ปี 60 ยืนยันว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เข้าเงื่อนไขตามที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ระบุว่า “นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากการนับอายุดำรงตำแหน่ง เริ่มขึ้นเมื่อรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มีผลบังคับใช้ ไม่นับตั้งแต่ก่อการรัฐประหาร
การตีความของนายวิษณุ และนายอุดมจึงเป็นการตีความกฎหมายแบบศรีธนญชัย เพื่อเอาใจผู้มีอำนาจมากกว่าที่จะพิจารณาถึงข้อกฎหมาย นอกจากนี้การพูดเช่นนี้เป็นการชี้นำศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายวิษณุ ทำตัวเป็นศาลรัฐธรรมนูญเสียเอง ดังนั้นในส่วนของพรรคฝ่ายค้านจะมีการยื่นตีความคุณสมบัติของพลเอกประยุทธ์ อย่างแน่นอน ว่าขัดกันซึ่งผลประโยชน์หรือไม่ ส่วนกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลออกโจมตีฝ่ายค้านในกรณีดังกล่าว เป็นเพียงต้องการเกาะอำนาจเท่านั้น เพราะถ้าผลออกมาว่าประยุทธ์ หลุดตำแหน่งก็จะหลุดตามไปด้วย
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่ตรวจดูสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์ นั้น เป็นการไปสร้างภาระให้กับหน่วยงานในพื้นที่มากกว่า ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ข้าราชการทุกหน่วยงานนับร้อยคน ต้องทิ้งภารกิจทุกอย่างเพื่อมารอต้อนรับพลเอกประยุทธ์ ลงตรวจพื้นที่ ทั้งๆ ที่ข้าราชการเหล่านี้ควรออกไปช่วยชาวมากกว่า นอกจากนี้ประชาชนที่ไปรอต้องรับต้องผ่านการคัดกรองและจัดฉากให้พูดเยินยอพลเอกประยุทธ์ อย่างเดียวเท่านั้นไม่สามารถสะท้อนปัญหาของพื้นที่ได้แต่อย่างใด
“นอกจากนี้การลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์ เป้าหมายไม่ได้ลงไปพบปะพี่น้องประชาชน แต่เป็นการวัดพลังในพรรคพลังประชารัฐมากกว่า ดังนั้นจึงเห็นการระดม ส.ส. ของพรรคไปรอรับพลเอกประยุทธ์เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น สะท้อนถึงความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล ดังนั้นผลที่ออกมาจึงไม่ได้เป็นการไปให้กำลังประชาชน
แต่ไปเพื่อสร้างฐานอำนาจในพรรคมากกว่า” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น