นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย
อภิปรายญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
โดยเริ่มจากการขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยืนไว้อาลัยให้กับความสูญเสียของพี่น้องประชาชน
.
นพ.ชลน่าน อภิปรายชี้ให้เห็นว่า พลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และอนุทิน ชาญวีรกูล
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ขาดจิตสำนึกในการบริหารประเทศจนน้องประชาชนที่ต้องยากลำบาก
ประเทศชาติเสียหายยับเยิน ซึ่งขณะนี้ในเวลา 1 ชั่วโมง มีผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 1
พันคน ตายชั่วโมงละไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งไม่รู้ว่าใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไป
.
พลเอกประยุทธ์ และ อนุทิน
ทำลายวงจรชีวิตมนุษย์ตั้งแต่ในครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน
ที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนต้องสูญเสียไปเป็นจำนวนมาก พ่อแม่หลายคนไม่มีสิทธิแม้จะเห็นหน้าลูกของตัวเองในวาระสุดท้ายและได้เห็นแต่ห่อเถ้ากระดูก
และชีวิตน้อยๆ ของทารกไม่มีโอกาสได้เห็นพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปเพราะติดโควิด
.
พลเอกประยุทธ์และอนุทิน
บริหารจัดการสถานการณ์ผิดพลาด บกพร่อง เสียหายอย่างร้ายแรง โดยสรุป คือ
1. ไร้ภูมิปัญญา ไร้วิสัยทัศน์
สั่งการไม่เป็นไปตามแผนงานโครงการ
2. รวบอำนาจ
แบบที่เขาเรียกกันว่าเป็นโรคโอหังคลั่งอำนาจ หรือ Hubris Syndrome ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา
ไม่เห็นคนหัวคนอื่น
ซึ่งได้สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นอย่างร้ายแรง
3. เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ทุจริตต่อหน้าที่
ฉ้อฉล
.
ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ หลงในอำนาจ เป็นนายกฯ
จอมสั่งการ และได้ทำให้ ครม.ชุดนี้เป็น ครม. เป็ดง่อย ภาษาทั่วไปเรียกว่าเผด็จการ
ที่สำคัญคือได้เอาทหารฝ่ายความมั่นคงมาเป็นหมอรักษาเชื้อโรคและทำงานด้านสุขภาพ
แต่ไม่เอาหมอมารักษาโรค จนมีคนป่วยและคนตายจำนวนมาก
ซึ่งการทำอย่างนี้เป็นเรื่องการทำเพื่อความมั่นคงของตัวเอง
ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแบบไม่เคยยกเเลิก ไม่ใช่เพื่อควบคุมโรค
แต่ใช้เพื่อควบคุมม็อบ
.
ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เพียงพลเอกประยุทธ์และ
นพ.ชลน่าน แก้ไขวิกฤตไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นการแอบแฝงผลประโยชน์ทางการเมือง
มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ
ที่มีวัคซีนฉีดมาโดยคลอด แต่ กทม. และ กระทรวงแรงงาน ที่เปิดจุดฉีดวัคซีนเช่นกัน
แต่กลับไม่มีวัคซีนให้ฉีด
.
การบริหารจัดการวัคซีนที่ผ่านมามีปัญหาอย่างมาก
ส่อว่าจะเกิดการทุจริตและกระทำโดยมิชอบ
แม้แต่วัคซีนวัคซีนบริจาคยังเป็นปัญหาเพราะกระจายอย่างไม่เป็นธรรม
โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์
มีข้อสั่งการให้วัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะและรัฐเท่านั้นที่จัดหาจัดซื้อได้ ทั้งๆที่
วัคซีนเป็นสินค้าที่ภาคเอกชนมีศักยภาพในการจัดหาและแข่งขันกันในตลาดได้
แต่เพราะมองเห็นว่าวัคซีนเป็นสิ่งที่จะหาประโยชน์ได้
อีกทั้งยังมีความพยายามขวางกั้น ปิดกั้น ไม่ให้วัคซีนต่างๆ เข้ามาประเทศไทย
เพื่อเปิดทางให้วัคซีนที่ท่านอยากซื้อและวัคซีนที่ท่านคิดว่าเป็นของพวกท่าน
แม้แต่การเข้าร่วมโครงการโคแวก สุดท้ายต้องมาขอรับบริจาควัคซีนจากต่างประเทศ
.
ท่านได้ทำให้ระบบสาธารณสุขไทยล้มเหลว ล้มละลาย
จากที่เคยได้รับการชื่นชมว่าระบบบริการทางการแพทย์และระบบสาธารณสุขเป็นอันดับต้นๆ
ของโลก และเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน เมื่อปี 2562
แต่ตอนนี้ติดลบและอาจจะไม่มีคะแนนเหลืออยู่เลย เรากำลังอาจจะเข้าสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
.
การปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมายและมติ ครม. โดยเฉพาะกรณีการจัดซื้อชุดตรวจ
Antigen Test Kit (ATK) 8.5 ล้านชุด
ซึ่งต้องผ่านการรับรองขององค์การอนามัยโลก สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ไปใช้ในการตรวจรักษา
จึงต้องการความแม่นยำ จึงมีการกำหนดสเปคไว้ค่อนข้างสูง
แต่ต่อมากลับมีการแก้ไขคุณสมบัติ
เนื่องจากบริษัทที่เข้าแข่งขันมีลักษณะสำหรับใช้ด้วยตัวเองเท่านั้นและมีราคาถูก
ซึ่งอาจเป็นปัญหาเรื่องความไวต่อเชื้อไวรัส ที่เรียกว่าเป็นผลลบลวง
.
พลเอกประยุทธ์ออกข้อสั่งการเมื่อวันที่ 16 ส.ค.
2564 การจัดหาชุดตรวจ ATK จะต้องผ่านการรับรองขององค์การอนามัยโลก
(WHO)และมีความแม่นยำ แต่ปรากฎว่า วันที่ 20
ส.ค.2564 พลเอกประยุทธ์กลับมีข้อสั่งการใหม่ การจัดหาชุดตรวจ ATK ไม่ต้องผ่านการรับรองของ
WHO และตัดข้อสั่งการเกี่ยวกับความแม่นยำในการตรวจออก
ซึ่ง ครม.ก็ไม่ยับยั้ง จนกระทั่งล่าสุด
องค์การเภสัชกรรมก็ลงนามในสัญญาจัดซื้อชุดตรวจ ATK ไปเรียบร้อยแล้ว
การกระทำนี้ เป็นการทรยศประชาชนหรือไม่
.
การเปลี่ยนข้อสังการของพลเอกประยุทธ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
เจตนาบริสุทธิ์หรือไม่ ซื่อสัตย์กับประชาชนหรือไม่ ฝ่ายการเมือง ฝ่ายประจำ
ร่วมกันกระทำความผิดอย่างรุนแรง ประหยัดเงิน 400 ล้านบาทแลกกับชีวิตประชาชน 8
ล้านคนได้อย่างไร เป็นการใช้ช่องกฎหมาย แสวงหาผลประโยชน์ เอื้อประโยชน์ ทำความผิดต่อพี่น้องประชาชน
อย่างร้ายแรง
.
หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จแล้ว
ฝ่ายค้านจะมีคำร้องยื่น ป.ป.ช. ทันที
เพื่อเอาท่านเข้าคุกในสิ่งที่ท่านทำให้เกิดขึ้นและอาจสามารถนำท่านขึ้นสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
เพราะสิ่งที่ทำให้คือปฏิบัติ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ทุจริตต่อหน้าที่
จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมายและมติ ครม.
และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการจงใจทำขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
.
วันนี้สิ่งที่ต้องถามว่า
ยุทธศาสตร์ของพลเอกประยุทธ์ว่า มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน แต่พฤติการณ์ที่ทำอยู่ในวันนี้
คือ หนี้มั่นคง จนมั่งคั่งและจะตายอย่างยั่งยืน แล้วเราจะยังมีผู้นำชื่อประยุทธ์
จันทร์โอชา กันต่อไปหรือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น