นายพิชัย นริพทะพันธุ์
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวในการอภิปรายออนไลน์ “ไทยไม่ทน” ว่า
ครบรอบ 7 ปีการปฏิวัติรัฐประหาร ประเทศไทยเสื่อมถอยทุกด้าน จำได้ว่าวันนี้เมื่อ 7
ปีที่แล้ว ถูกเรียกตัวปรับทัศนคติครั้งแรกหลังการปฏิวัติ และต้องไปนอนที่ มทบ. 11
และทหารก็มาสัญญาว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาไม่นานแล้วจะรีบเลือกตั้งกลับสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง
แต่ผ่านมา 7 ปี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังสืบทอดอำนาจและเป็นผู้นำอยู่เลย
ต่อมาตนถูกเรียกปรับทัศนคติอีก 8 หน ถูกเรียกดำเนินคดี 4 หน รวม 12 หน
เพราะเตือนเรื่องเศรษฐกิจ และเศรษฐกิจก็ย่ำแย่ทรุดลงมาเรื่อย ซึ่ง ผลงานการบริหารประเทศ
7 ปีของพลเอกประยุทธ์ ต้องเรียกว่า “ล้มเหลว” ในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และ
การเมือง โดยขออธิบายดังนี่
ล้มเหลวทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพมาตลอด
ยิ่งพอพลเอกประยุทธ์มาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเอง เศรษฐกิจกลับยิ่งทรุดหนัก
เศรษฐกิจไทย 7 ปี ขยายตัวเฉลี่ยได้เพียงปีละ 1% กว่าเท่านั้น
หนี้สาธารณะไทยจะพุ่งเกิน 9 ล้านล้านบาท และ จะทะลุเพดาน 60% หนี้ครัวเรือนทะลุ
92% แล้ว และ ยังพุ่งต่อ ธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มกังวลต่อหนี้เสียที่มากขึ้น
ธุรกิจเจ๊งปิดตัวกันมาก การว่างงานพุ่งสูง รายได้ของประชาชนลดลงกันถ้วนหน้า
การเก็บรายได้ของรัฐลดลง
และยังไม่มีทิศทางทึ่พลเอกประยุทธ์จะฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างไร
ล้มเหลวทางสังคม สังคมแตกแยกมาก
รัฐบาลใช้ไอโอในการโจมตีคนเห็นต่างสร้างความแตกแยกมากยิ่งขึ้น
มีการจับกุมคนเห็นต่าง คนรุ่นใหม่หมดความหวัง อยากจะย้ายไปอยู่ประเทศอื่น
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงว่าคนฉลาดและคนเก่งจะย้ายออกไปต่างประเทศกันหมด
นอกจากนี้ยังมีความล้มเหลวทางสาธารณสุขที่คนติดไวรัสทั้งเจ็บและล้มตายกันมาก
ซึ่งน่าห่วงมากเพราะยังมีปริมาณเพิ่มขึ้นตลอด
ความล้มเหลวทางการเมือง
การเมืองย้อนยุคไป 30 ปี มีพรรคเล็กพรรคน้อยเต็มไปหมด ไม่สามารถดำเนินนโยบายได้
พรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งหนัก รัฐธรรมนูญมีปัญหามากแต่ไม่ยอมแก้ไขเพราะกลัวเสียอำนาจ
มี 250 สว. ตั้งเองเลือกตัวเองเป็นนายกฯ
รักษาอำนาจทั้งที่บริหารประเทศได้ย่ำแย่จนประชาชนไม่พอใจและได้ออกมาประท้วงขับไล่กันจำนวนมาก
นี่เป็นความล้มเหลวหลักๆ ที่เห็นได้ชัด
และยังมีความล้มเหลวด้านอื่นๆอีกมาก
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการปฏิวัติ
ประเทศไทยคงพัฒนาไปกว่านี้มาก ประเทศคงมีรถไฟความเร็วสูงไป เชียงใหม่ และ
หนองคายเชื่อมต่อประเทศจีนไปแล้ว ภาคเหนือและภาคอีสานจะมีการพัฒนาอย่างมาก
มีการบริหารจัดการน้ำที่ดี ไม่ต้องมากังวล น้ำท่วม น้ำแล้ง กันทุกปี
เด็กไทยจะมีความสามารถทางด้านเศรษฐกิจดิจิตอลจากโครงการแจกแท็บเล็ต
และน่าจะต้องมีบริษัทเทคโนโลยีระดับยูนิคอร์นเกิดขึ้นกันมาก
ซึ่งหากจำกันได้เศรษฐกิจไทยในปี 2555 ภายหลังจากปีน้ำท่วมเศรษฐกิจไทยขยายตัวถึง 7.2%
จากนโยบายต่างๆที่รัฐบาลสมัยนั้นนำเสนอไว้และทำได้จริงทุกนโยบาย จนมาปี 2556
มีการประท้วงโดยมีข้อสงสัยว่าจะร่วมมือกันเพื่อนำไปสู่การทำปฏิวัติจึงทำให้เศรษฐกิจไทยแย่ลง
และ แย่ลงมาตลอดหลังการปฏิวัติ ดังนั้นหากไม่มีปฏิวัติ คนไทยคงมีความสุขกว่านี้มาก
ครบ 7 ปีของการปฏิวัติ
ประเทศไทยได้เสื่อมถอยลงทุกด้าน
พลเอกประยุทธ์พิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้นำที่ไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอและตามโลกไม่ทัน
อีกทั้งยังไม่สามารถที่จะแยกแยะลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆได้ หากพลเอกประยุทธ์ยังคงดื้อรั้นที่จะเป็นผู้นำต่อไป
ประเทศไทยจะยิ่งย่ำแย่ลงไปเรื่อยๆ
และจะทำให้เกิดหนี้สินล้นประเทศและประเทศจะเสียหายจนเกินเยียวยาได้
รัฐบาลในอนาคตจะประสพยากความลำบากอย่างมากในการแก้ปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ หรือ
อาจจะแก้ไม่ได้เลยถ้าพลเอกประยุทธ์ยังคงเป็นผู้นำอยู่
เพราะพลเอกประยุทธ์จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น